ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมอันดับ 1 ของโลกมาอย่างยาวนานเนื่องจากเป็นกีฬาที่สนุก เร้าใจ สวยงามแฝงไปด้วยความคลาสสิค ฟุตบอลมาตรฐานทั่วไปเล่นกันฝั่งละ 11 คน แต่มีคนคิดการแข่งขันฟุตบอลแบบใหม่ขึ้นมาคือการเล่นฟุตบอลแบบ 7 คน ซึ่งมีการย่อส่วนสนามลงมาเพื่อให้เหมาะกับจำนวนคนฝั่งละ 7 คน

ฟุตบอล 7 คนที่เป็นที่รู้จักกันในเมืองไทยก็คือฟุตบอล 7 คน นักเรียน อย่างที่ได้ดูผ่านหน้าจอทีวี จะเห็นได้ว่ามีการทำประตูกันเยอะมากในแต่ละนัด จากการที่สนามเล็กลงกว่าเดิม แต่ประตูยังใช้ขนาดเท่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าสามารถสร้างความมันได้มากกว่าฟุตบอล 11 คน

นอกจากความมันของการได้รับชมแล้ว เราจะได้เห็น การใช้ทักษะต่าง ๆ ของนักเตะ ได้มากกว่าฟุตบอล 11 คน รวมทั้งการวางแท็คติกต่าง ๆ ของผู้ฝึกสอนซึ่งเห็นแล้วตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง ฟุตบอล 7 คน ส่วนใหญ่เน้นการต่อบอลบนพื้น เท้าสู่เท้า เน้นการให้บอลเร็ว รวมถึงการหาโอกาสยิงไกลที่จะมีโอกาสได้ประตูมากขึ้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพื้นฐานที่ถ้าฝึกบ่อย ๆ จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับฟุตบอล 11 คน ได้เป็นอย่างดี

เป็นเวทีประลองกึ๋นโค้ช สร้างนักเตะเยาวชนขึ้นสู่ทีมชาติ

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คน ที่ผ่านมาได้เป็นเวทีให้บรรดากุนซือของโรงเรียนต่าง ๆ ได้ลองฝึกประลองกึ๋น ประชันแท็คติกกันได้ดีเลยทีเดียว เหมาะกับการใช้เป็นเวทีฝึกปรือเพื่อเลื่อนชั้นสู่การเป็นกุนซืออาชีพให้กับสโมสรต่าง ๆ ประกอบกับนักเตะเยาวชนที่ลงเตะก็จะมีเหล่าแมวมองจากสโมสรต่าง ๆ มาชมฟอร์มเพื่อไปเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพ หรือแม้กระทั่งอาจจะได้ติดทีมชาติชุดเยาวชนเลยกก็เป็นได้ ถือว่าเป็นการแข่งขันที่ดีมาก เหล่าผู้จัดการแข่งขันควรรักษาการแข่งขันนี้ไว้ต่อไป และอาจส่งเสริมให้มีรายการแข่งขันลักษณะเดียวกัน สำหรับเยาวชนชุดอื่น ๆ หรือสำหรับบุคคลทั่วไปด้วย

จะเห็นได้ว่าการแข่งขันฟุตบอล 7 คนนั้น แฝงไว้ซึงแท็คติกมากมาย ที่จะสามารถนำไปต่อยอดกับฟุตบอลสนามใหญ่ได้ เช่นการฝึกทักษะการจ่ายบอลที่แม่นยำในพื้นที่ที่แคบกว่าสนามปกติ ฝึกการบีบพื้นที่ การตั้งโซนรับโดยใช้คนน้อย รวมทั้งการเข้าทำในพื้นที่แคบ การยิงไกล การเล่นลูกสูตรฟรีคิก หรือเตะมุม ซึ่งทุกอย่างจะต้องทำด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ ถือว่าเป็นการต่อยอดให้นักเตะเยาวชนได้นำไปใช้พลิกแพลงกับฟุตบอลสนามใหญ่

เมื่อเห็นประโยชน์เช่นนี้คงต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทั้งหลายที่จัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คนขึ้นมา ให้กับนักเตะเยาวชนและโค้ชสมัครเล่นจากโรงเรียนต่าง ได้มาประลองฝีมือกัน ทั้งนี้และทั้งนั้นจำเป็นต้องกระจายโอกาสให้กับทีมโรงเรียนที่อยู่ต่างจังหวัดได้มีโอกาสมาประลองเช่นเดียวกัน

วงการฟุตบอลนักเรียนหรือที่รู้จักกันในหมู่คนรักฟุตบอลว่า “วงการลูกหนังขาสั้น” นั้น เป็นวงการรากฐานฟุตบอลไทยที่มีส่วนช่วยในการพัฒนานักเตะระดับเยาวชนสู่ความเป็นมืออาชีพได้ โดยมีสถาบันการศึกษาเป็นแหล่งฟูมฟักที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง คุณผู้อ่านเคยได้ยินชื่อโรงเรียน “เทพศิรินทร์” กันหรือ ไม่โรงเรียนแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งโรงเรียนชั้นแนวหน้าในระดับฟุตบอลเยาวชน ที่ทั้งอดีตและปัจจุบันสามารถคว้าแชมป์ต่าง ๆ มาได้อย่างมากมายรวมถึงมีมนต์เสน่ห์เป็นอย่างยิ่งสำหรับทีมทีมนี้ทุกคนที่เคยผ่านหูผ่านตาชมการแข่งขันต่างชื่นชม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องสัมผัสด้วยตัวเองจึงจะได้เห็น

สปิริตสีเขียว-เหลือง

ทีมฟุตบอลโรงเรียนเทพศิรินทร์ หรือที่รู้จักกันในฉายา “ลูกแม่รำเพย” มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในด้านของกีฬาฟุตบอล สามารถคว้าแชมป์รายการต่าง ๆ มาได้อย่างมากมาย อาทิเช่น ฟุตบอลกรมพลศึกษา ถ้วยก., ฟุตบอลชิงแชมป์ทหารอากาศ, ฟุตบอลไรมินิสเตอร์ คัพ, ฟุตบอลประเพณีจตุรมิตรสามัคคี และอื่น ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งในอดีตผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบันที่ถูกส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น เราจะเห็นทุกครั้งที่ทีมลูกแม่รำเพยลงทำการแข่งขันไม่ว่าจะใกล้ไกลหรือรายการใหญ่เล็กเพียงใด เหล่ากองเชียร์ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันจะตามกันมาเชียร์ถึงที่พร้อมฉาบให้สังเวียนการแข่งขันนั้นกลายเป็นสี เขียว-เหลือง สีประจำโรงเรียนของพวกเขา พร้อมเพลงเชียร์ที่บ่งบอกถึงสปิริตของทีม “โอ้ นั่นคือใคร ใคร ๆ แสนสง่า นักกีฬาเทพศิรินทร์ มิใช่ใคร” เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเพลงเชียร์ของโรงเรียนทีมนี้ที่ฟังดูแล้วถ้าเกิดลองจินตนาการเป็นนักกีฬาดูแล้ว คงได้ความฮีกเหิมอย่างแน่นอน ซึ่งกองเชียร์ของโรงเรียนเทพศิรินทร์ถูกยกย่องว่าเป็นกองเชียร์ในระดับฟุตบอลนักเรียนที่ดีที่สุดทีมหนึ่ง

อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ เป็นโรงเรียนชั้นนำด้านฟุตบอลสิ่งที่กล่าวมานี้สามารถพิสูจน์ได้จากการเห็นศิษย์เก่าที่สามารถไต่เต้าไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพแถวหน้าของประเทศได้ ยกตัวอย่างเช่น พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี มิดฟิลด์กัปตันทีมของ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่เป็นจอมทัพสำคัญในการยกระดับทีมรวมถึงยังสามารถก้าวสู่การติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้อีกด้วย หรือจะเป็นในยุคของ วรวุฒิ วังสวัสดิ์ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติที่ลงเล่นให้กับทีมดังหลายต่อหลายทีม นอกจากนั้นยังมีนักฟุตบอลอีกมากของโรงเรียนเทพศิรินทร์ที่ยังไม่ได้กล่าว แต่เชื่อว่าไม่มีใครกล้าสบประมาททีมโรงเรียนนี้แน่ ๆ ปัจจุบันโรงเรียนเทพศิรินทร์ได้ผู้ฝึกสอนอย่างโค้ชอาร์ท “ธวัชชัย ทองฮวด” และ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดยาติไทย เข้ามาพัฒนาทีมให้กลับมาแข็งแกร่งน่าเกรงขามอีกครั้ง

พร้อมแล้วสำหรับจตุรมิตร

สำหรับฟุตบอลรายการจตุรมิตรสามัคคีที่กำลังจะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง ชาวลูกแม่รำเพยต่างหมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างมากที่จะคว้าถ้วยอันทรงเกียรตินี้ไว้ให้ได้ ด้วยตัวนักเตะและทีมงานผู้ฝึกสอนรวมถึงกองเชียร์ที่พร้อมเป็นอย่างยิ่ง มาคอยเอาใจช่วยให้พวกทำได้สำเร็จและประสบความสำเร็จให้ได้เพื่อสืบสานมนขลังต์นี้ต่อไป