ถ้าพูดถึงลีกฟุตบอลแนวหน้าของเอเชียคงหนีไม่พ้น เจลีกของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลีกที่มีมาตรฐานระดับโลก รวมทั้งมีแฟนบอลเข้าชมหนาแน่นทุกนัด ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เหล่าบรรดาทีมใน เจลีก ให้ความสนใจนักเตะไทยและดึงตัวไปร่วมทีมในช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น เจ้าเจ ชนาธิป สงกระสินธ์ ที่ไปค้าแข้งกับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่  ธีรศิลป์ แดงดา ไปอยู่กับ ชิมิสึ เอสพัลส์ หลังจากที่รอบแรกไปอยู่กับ ซานเฟรชเซ่ ฮิโรชิม่า ส่วนธีราธร บุญมาทัน รอบแรกอยู่กับ วิสเซล โกเบ และย้ายไปอยู่กับ โยโกฮาม่า เอฟมารินอส จนได้เป็นแชมป์ เจลีก ส่วน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่อยู่กับ โออิตะ ตรินิด้า ก่อนย้ายกลับมาเล่นที่ไทย และรายล่าสุด มือกาวอย่าง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ย้ายจากโอเฮช ลูเวิร์น ทีมจากลีกเบลเยียม มาอยู่กับ เจ้าเจที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่

การได้ไปโชว์ฝีเท้าที่ญี่ปุ่นของบรรดานักเตะทีมชาติไทยทั้งหมดเหมือนเป็นใบเบิกทางให้กับนักเตะไทยคนอื่น ๆ ได้มีแรงกระตุ้น ให้พัฒนาตัวเองและโชว์ฝีเท้าทั้งในสโมสรและทีมชาติเพื่อให้เหล่าแมวมองของทีมต่าง ๆได้มีโอกาสเห็นและดึงตัวไปร่วมทีม อีกทั้งการโชว์ฟอร์มของนักเตะไทยใน เจลีก ยังเป็นเครื่องรับประกันให้กับนักเตะไทยคนอื่น ๆ ว่าสามารถดวลกับนักเตะญี่ปุ่นและนักเตะต่างชาติไน เจลีก ได้อย่างไม่มีปัญหาอีกด้วย

คงจะดีมิใช่น้อยหากมีนักเตะไทยคนอื่น ๆ ได้เจริญรอยตามไปเล่นให้กับทีมต่าง ๆ ในเจลีกเพิ่ม เพื่อเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งในแง่ของการฝึกซ้อมอย่างมืออาชีพแบบญี่ปุ่น รวมทั้งการได้ประลองฝีเท้ากับเหล่านักเตะญี่ปุ่นรวมทั้งนักเตะต่างชาติที่มีดีกรีสูงกว่าในไทยลีก เพื่อสร้างประสบการณ์และพัฒนาศักยภาพเพื่อยกระดับทีมชาติไทยให้ขึ้นมาสู่แนวหน้าของทวีปเอเชียได้ นักเตะไทยคนไหนจะเป็นรายต่อไปที่จะมีโอกาสได้ไปเล่นใน เจลีก

สารัช อยู่เย็น กองกลางห้องเครื่องทีมชาติไทยซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในลีกอาทิตย์อุทัย จนล่าสุดก็ตกลงปลงใจย้ายไปเล่นให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งความเป็นไปได้ในการย้ายทีมของสารัชในฤดูกาลนี้อาจจะยังเป็นไปไม่ได้เนื่องจากเพิ่งย้ายทีมหมาด ๆ แต่หากสารัชโชว์ฟอร์มให้กับต้นสังกัดได้อย่างโดดเด่น รวมทั้งในนามทีมชาติก็มีความเป็นไปได้ว่าเราจะได้ยินข่าวทีมจากญี่ปุ่นให้ความสนใจสารัช อีกครั้ง และอาจจะได้เห็นมิดฟิลด์เชือกวิเศษผู้นี้ไปโชว์ฝีเท้าในญี่ปุ่นจริง ๆ ก็ได้

ศุภโชค สารชาติ มิดฟิลด์ตัวรุกจากปราสาทสายฟ้า เป็นอีกหนึ่งรายที่ฟอร์มดีทั้งสโมสรและทีมชาติ อีกทั้งยังมีโอกาสได้โชว์ฝีเท้าในรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก มาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ยังไม่มีทีมในญี่ปุ่นให้ความสนใจอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยความที่เขาอายุยังน้อย ยังมีโอกาสได้พัฒนาฝีเท้าและโชว์ความสามารถอีกมาก อีกทั้งเป็นผู้เล่นตัวรุกที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง เชื่อว่า ศุภโชคคงมีโอกาสได้ไปเล่นใน เจลีกได้

เอกนิษฐ์ ปัญญา มิดฟิลด์ตัวรุกจากแดนล้านนา เป็นอีกหนึ่งรายที่โชว์ฟอร์มได้ดีมากกับต้นสังกัดชียงราย ยูไนเต็ด รวมทั้งทีมชาติไทย จนมีข่าวทีมจากญี่ปุ่นให้ความสนใจและมีการเปิดเผยว่าเป็นทีมใน เจลีก 2 แต่ทั้งนี้เจ้าตัวยังมีความต้องการรับใช้ต้นสังกัดเชียงราย ยูไนเต็ดต่อไป โดยจะมีรายการสำคัญให้ได้โชว์ฝีเท้าในฟุตบอลถ้วยใหญ่ของเอเชียฤดูกาลหน้า รวมทั้งรายการฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับทีมชาติไทย ซึ่งจะเป็นเวทีให้เอกนิษฐ์ ได้โชว์ฝีเท้าให้บรรดาเหล่าแมวมองได้เห็นกันแน่นอน

สำหรับการไปเล่นใน เจลีก ของนักเตะไทย ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับทีมชาติไทยขึ้น แต่ยังทำให้แฟนบอลไทยได้รับชมฟุตบอลลีกญี่ปุ่นโดยที่มีนักเตะไทยลงเล่นอยู่ในจอทีวี ถือว่าเป็นการสร้างสีสันให้กับแฟนบอลอย่างมาก คงจะดีมิใช่น้อยหากแฟนบอลชาวไทยจะได้ติดตามผลงานของนักเตะไทยผ่านการถ่ายทอดสดจากลีกญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นหลาย ๆ คน รวมทั้งขยับขยาย ย้ายไปเล่นในเวทีที่ใหญ่ขึ้นอย่างลีกยุโรป แค่คิดก็สนุกแล้ว

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมอันดับ 1 ของโลกมาอย่างยาวนานเนื่องจากเป็นกีฬาที่สนุก เร้าใจ สวยงามแฝงไปด้วยความคลาสสิค ฟุตบอลมาตรฐานทั่วไปเล่นกันฝั่งละ 11 คน แต่มีคนคิดการแข่งขันฟุตบอลแบบใหม่ขึ้นมาคือการเล่นฟุตบอลแบบ 7 คน ซึ่งมีการย่อส่วนสนามลงมาเพื่อให้เหมาะกับจำนวนคนฝั่งละ 7 คน

ฟุตบอล 7 คนที่เป็นที่รู้จักกันในเมืองไทยก็คือฟุตบอล 7 คน นักเรียน อย่างที่ได้ดูผ่านหน้าจอทีวี จะเห็นได้ว่ามีการทำประตูกันเยอะมากในแต่ละนัด จากการที่สนามเล็กลงกว่าเดิม แต่ประตูยังใช้ขนาดเท่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าสามารถสร้างความมันได้มากกว่าฟุตบอล 11 คน

นอกจากความมันของการได้รับชมแล้ว เราจะได้เห็น การใช้ทักษะต่าง ๆ ของนักเตะ ได้มากกว่าฟุตบอล 11 คน รวมทั้งการวางแท็คติกต่าง ๆ ของผู้ฝึกสอนซึ่งเห็นแล้วตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง ฟุตบอล 7 คน ส่วนใหญ่เน้นการต่อบอลบนพื้น เท้าสู่เท้า เน้นการให้บอลเร็ว รวมถึงการหาโอกาสยิงไกลที่จะมีโอกาสได้ประตูมากขึ้น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพื้นฐานที่ถ้าฝึกบ่อย ๆ จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับฟุตบอล 11 คน ได้เป็นอย่างดี

เป็นเวทีประลองกึ๋นโค้ช สร้างนักเตะเยาวชนขึ้นสู่ทีมชาติ

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คน ที่ผ่านมาได้เป็นเวทีให้บรรดากุนซือของโรงเรียนต่าง ๆ ได้ลองฝึกประลองกึ๋น ประชันแท็คติกกันได้ดีเลยทีเดียว เหมาะกับการใช้เป็นเวทีฝึกปรือเพื่อเลื่อนชั้นสู่การเป็นกุนซืออาชีพให้กับสโมสรต่าง ๆ ประกอบกับนักเตะเยาวชนที่ลงเตะก็จะมีเหล่าแมวมองจากสโมสรต่าง ๆ มาชมฟอร์มเพื่อไปเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพ หรือแม้กระทั่งอาจจะได้ติดทีมชาติชุดเยาวชนเลยกก็เป็นได้ ถือว่าเป็นการแข่งขันที่ดีมาก เหล่าผู้จัดการแข่งขันควรรักษาการแข่งขันนี้ไว้ต่อไป และอาจส่งเสริมให้มีรายการแข่งขันลักษณะเดียวกัน สำหรับเยาวชนชุดอื่น ๆ หรือสำหรับบุคคลทั่วไปด้วย

จะเห็นได้ว่าการแข่งขันฟุตบอล 7 คนนั้น แฝงไว้ซึงแท็คติกมากมาย ที่จะสามารถนำไปต่อยอดกับฟุตบอลสนามใหญ่ได้ เช่นการฝึกทักษะการจ่ายบอลที่แม่นยำในพื้นที่ที่แคบกว่าสนามปกติ ฝึกการบีบพื้นที่ การตั้งโซนรับโดยใช้คนน้อย รวมทั้งการเข้าทำในพื้นที่แคบ การยิงไกล การเล่นลูกสูตรฟรีคิก หรือเตะมุม ซึ่งทุกอย่างจะต้องทำด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ ถือว่าเป็นการต่อยอดให้นักเตะเยาวชนได้นำไปใช้พลิกแพลงกับฟุตบอลสนามใหญ่

เมื่อเห็นประโยชน์เช่นนี้คงต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทั้งหลายที่จัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คนขึ้นมา ให้กับนักเตะเยาวชนและโค้ชสมัครเล่นจากโรงเรียนต่าง ได้มาประลองฝีมือกัน ทั้งนี้และทั้งนั้นจำเป็นต้องกระจายโอกาสให้กับทีมโรงเรียนที่อยู่ต่างจังหวัดได้มีโอกาสมาประลองเช่นเดียวกัน

นับตั้งแต่อดีตถ้าพูดถึงกีฬา ทุกคนต้องคิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องใช้พละกำลัง มีการเคลื่อนที่ มีการเสียเหงื่อ แต่นับตั้งแต่ที่โลกเราเข้าสู่ยุค 4G ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป รวมทั้งกีฬา ที่ปัจจุบันนี้มีกีฬาชนิดใหม่ ที่ไม่ต้องใช้พละกำลัง ไม่ต้องเคลื่อนที่ ไม่ต้องเสียเหงื่อ นั่นคือ E-sports

E-sports เริ่มต้นขึ้นจากเกมส์ประเภทแฟนตาซี ซึ่งมีการเล่นแข่งขันเป็นทีมอย่างจริงจัง และต่อมาจึงมีการนำเกมส์ขวัญใจเด็กผู้ชายหลายคนอย่างเกมฟุตบอลมาแข่งขันแบบ E-sports อีกด้วย ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากและมีการจัดการแข่งขันแบบลีกเหมือนกับฟุตบอลลีกของจริงกันเลยทีเดียว

เปลี่ยนเด็กติดเกมส์ให้มาเป็นนักกีฬา

ถือว่าเป็นเรื่องคลาสสิคเลยทีเดียวสำหรับเด็กที่ชื่นชอบเล่นเกมส์ ซึ่งจะเป็นที่รำคาญใจของเหล่าผู้ปกครองทั้งหลายที่กลัวว่าลูกจะเสียการเรียนจากการติดเกมส์ แต่ในปัจจุบันนี้การเล่นเกมไม่ได้เป็นการเล่นที่เสียเวลาและไม่มีประโยชน์อีกต่อไป หากเด็กเยาวชนคนไหนมีความสามารถก็สามารถยึดเป็นอาชีพได้เลยทีเดียว

สำหรับ E-Football ของไทยได้มีการจัดการแข่งขันอย่างจริงจังขึ้นในปี 2020 ซึ่งมีการแข่งขันแบบลีกเหมือนกับฟุตบอลไทยลีก แข่งขันกันแบบพบกันหมด ใช้ชื่อสโมสรตามฟุตบอลไทยลีกจริง ๆ โดยการแข่งขันจะมีแบบคนเดียว และประเภททีม ซึ่งในการแข่งขันแต่ละแมตซ์ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนต่างโชว์ฝีมือความสามารถกันอย่างเต็มที่ แถมบางทีมยังขนกองเชียร์มาอีกด้วย

ส่งเสริมให้จริงจัง ช่วยสร้างงานกลุ่มใหม่ และพัฒนาเศรษฐกิจ

จากการจัดการแข่งขัน E-Football league ของไทยครั้งแรก พบว่ากลุ่มเยาวชนมีความตื่นตัวและให้ความสนใจมาก ผู้เข้าแข่งขันต่างเตรียมตัวเตรียมทีมกันมาเป็นอย่างดี มีสปอนเซอร์ใหญ่ให้การสนับสนุนในการจัดการแข่งขัน รวมทั้งมีการถ่ายทอดสดออนไลน์ทางเฟสบุ๊คซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ชมทางบ้านพอสมควร ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นเรื่องดีของวงการ E-Sports ไทย และประเทศไทย ซึ่งจะช่วยทำให้เด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ได้มีพื้นที่แสดงออกถึงความสามารถที่มีในตัวออกมาในการแข่งขัน ภาครัฐ และภาคเอกชนของไทยจึงควรส่งเสริมกีฬา E-Sport อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าหากมีการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องย่อมสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจด้านไอที รวมทั้งสร้างงานให้บุคลากรด้านไอทีเพิ่มขึ้น รวมทั้งอาจดึงกลุ่มธุรกิจด้าน E-Sport หรือธุรกิจไอทีให้เข้ามาลงทุนเพิ่มด้วย จะเห็นได้ว่าลงทุนนิดเดียวได้ประโยชน์กลับมาเยอะแยะเลยทีเดียว

การสร้างคนและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไม่จำเป็นที่เด็กทุกคนต้องเรียนเก่ง เล่นกีฬาเก่ง เล่นดนตรีเก่ง เต้นเก่ง แต่ขอแค่ให้เยาวชนได้แสดงศักยภาพด้านใดด้านหนึ่งออกมา เช่นเดียวกับเด็กที่รักในการเล่นเกมฟุตบอล หากแสดงศักยภาพในด้านนี้ออกมาได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง และครอบครัว เมื่อผู้ปกครองเห็นและเข้าใจแล้วก็ควรส่งเสริมลูกหลานให้เต็มที่ถึงแม้ว่าจะขัดกับความคิดของตนไปบ้าง แต่ต้องไม่ลืมว่า เราอยุ่ในโลกเทคโนโลยี ที่อะไรอะไร ก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว