เป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับวงการสนุกเกอร์ไทย สำหรับฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของนักสอยคิวบ้านเราอย่าง “เอฟ นครนายก” หรือเทพไชยา อุ่นหนู ที่มีฟอร์มการออกคิวที่ร้อนแรงมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ที่สามารถคว้าแชมป์ชู้ตเอาท์ 2019 ได้เมื่อปลายปีที่แล้ว ก่อนที่จะมาโดนพิษการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาหยุดความร้อนแรงของเขาไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายจนทำให้สนุกเกอร์สามารถกลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง เขาก็ได้รับโอกาสบินไปร่วมศึกอิงลิช โอเพ่น 2020 ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะมีอันต้องตกรอบ 64 คนไปด้วยฝีมือของเบน แฮนคอร์นนักสอยคิวเจ้าถิ่นอย่างน่าเสียดาย แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้คะแนนสะสมของเขาก้าวขึ้นไปติดเป็นอันดับขึ้นไปเป็นนักสนุกเกอร์ 16 อันดับแรกของโลกได้สำเร็จ

การที่เอฟสามารถก้าวขึ้นไปติดหนึ่งใน 16 อันดับแรกของโลกได้นั้น ทำให้เขากลายเป็นนักสนุกเกอร์ของชาวไทยคนที่สองต่อจากรัชพล ภู่โอบอ้อมหรือ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ที่สามารถก้าวขึ้นไปได้สูงถึงอันดับ 3 ของโลกในปี 1995 และนอกจากนั้นมันยังมีสิ่งดี ๆ อีกหลายอย่างตามมานั่นก็คือถ้าหากเขายังสามารถรักษาอันดับนี้ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยก็คือจนกว่าจะจบรายการยูเค แชมเปี้ยนชิพ 2020 ที่จะทำการแข่งขันที่ประเทศอังกฤษอีกเช่นกัน ซึ่งถ้าหากหลังทัวร์นาเมนท์ดังกล่าวเขายังคงอยู่ในอันดับนี้ได้ เขาจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมรายการหนึ่งในสามรายการที่เป็นระดับทริปเปิ้ล คราวน์อย่างเดอะ มาสเตอร์ 2021 และถ้าหากสามารถทำได้ดีมากกว่านั้นคือยังคงรักษาอันดับอยู่ใน 16 คนแรกต่อได้จนถึงจบรายการทัวร์ แชมเปี้ยนชิพช่วงปลายปีแล้วละก็ จะทำให้เทพไชยาของเราได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในรายการชิงแชมป์โลกในฐานะตัวยืนในรอบแรกอีกด้วย

นับว่านี่คือโอกาสอันดีที่ตกมาอยู่ในมือของเอฟ นครนายก ในแบบที่เขาสามารถกำหนดเส้นทางได้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว เพราะจากนี้เขาไม่ต้องไปลุ้นให้นักสนุกเกอร์คนไหนแพ้หรือชนะ เพียงแค่รักษาผลงานของตัวเองให้อยู่ในระดับนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้สิทธิพิเศษต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นมาครองได้โดยอัตโนมัติ ถึงแม้ว่าระยะทางจากนี้ไปยังคงดูเหมือนว่าจะยาวไกลไม่น้อย แต่มาถึงจุดนี้แล้วความเป็นไปได้มันย่อมสูงมากกว่าที่เคยมีอย่างแน่นอน

จากนี้ไปแฟนสนุกเกอร์ไทยคงจะต้องส่งแรงใจไปช่วยเทพไชยาอย่างมาก เพราะเส้นทางที่เหลืออยู่ย่อมที่จะไม่ง่ายแน่ แต่เมื่อมันไม่ง่ายดายสิ่งที่รออยู่ตรงปลายทางก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เพราะสิ่งเหล่านั้นก็คือการที่จะทำให้เขาก้าวขึ้นไปเทียบกับตำนานนักสอยคิวไทยอย่างต๋อง ศิษย์ฉ่อย หรือถ้าหากเขาทำได้ดีกว่านั้นเราอาจจะได้เห็นเขาสร้างตำนานบทใหม่ขึ้นมาก็เป็นได้