ถ้าพูดถึงวงการกีฬากอล์ฟของประเทศไทยแล้ว คงจะอดไม่พูดถึงยอดหญิงที่ชื่อว่า “เอรียา จุฑานุกาล” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “โปรเม” ไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันโปรเมสามารถก้าวไปสู่การเป็นนักกอล์ฟชื่อดังในระดับโลกแล้วท่ามกลางนักกอล์ฟหลากหลายเชื้อชาติที่มีฝีมือ แต่เธอกลับแบกความหวังและชื่อเสียงของชาติไปแสดงต่อสายตาชาวโลกให้เห็นถึงความเก่งกาจของเธอได้อย่างงดงาม ต้องบอกว่าโปรเมนั้นคือหนึ่งในแรงบันดาลใจ ตัวอย่าง และแนวทางของเยาวชนผู้ที่สนใจจะมาเล่นกีฬากอล์ฟได้อย่างมากมายเหลือเกิน
ครอบครัวคือแรงผลักดันที่สำคัญ
สำหรับโปรกอล์ฟหญิงวัย 23 คนนี้ มีกำลังใจสำคัญคือครอบครัว “จุฑานุกาล” ที่ส่งเสริมผลักดันเธอให้มุ่งสู่การมาเป็นโปรกอล์ฟพร้อมกับพี่สาว “โมรียา จุฑานุกาล” ที่ก้าวมาเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพเช่นกัน ท่ามกลางการโตมาพร้อมกับกิจการร้านขายอุปกรณ์กีฬากอล์ฟของพ่อเธอ หรือคุณสมบูรณ์ จุฑานุกาล โดยเธอได้สัมผัสกับกีฬาชนิดนี้ครั้งแรกตั้งแต่ 5 ขวบ จนคุณพ่อสมบูรณ์เห็นแววของเธอและพร้อมส่งเสริม เริ่มจากการที่มักจะพาเธอไปฝึกซ้อมที่สนามกอล์ฟด้วยบ่อยครั้ง แต่ชีวิตของคนทุกคนไม่ได้ง่ายดั่งในนิยายหรือการ์ตูน เพราะความฝันของเธอต้องแลกมาด้วยการที่ครอบครัวต้องนำบ้าน นำรถ และทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเป็นเงินได้มาให้เธอได้ร่ำเรียนวิชาเพื่อเข้าสู่วงการกอล์ฟมืออาชีพ นอกจากนั้นคุณพ่อสมบูรณ์ยังทุ่มเทเวลาในการมาเป็นโค้ชฝึกสอนให้กับตัวลูกสาวอีกด้วย ต้องบอกว่าการกระทำของครอบครัวจุฑานุกาลเปรียบเสมือนการนำดินชั้นดีมาเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดเพราะผลของดอกต่อจากนี้ช่างคุ้มค่าเหลือเกิน
วันเวลาพัดผ่านไปจนถึงช่วงเวลาที่แท้จริงของชีวิต หากเป็นเด็กวัยรุ่นคนอื่นทั่วไปคงเลือกที่จะต่อมหาวิทยาลัยหรือทางเลือกการศึกษาระดับอื่น ๆ ต่อแต่ไม่ใช่กับ “เอรียา จุฑานุกาล” เธอพร้อมแล้วกับการเทิร์นโปรสู่วงการกอล์ฟ แต่ความผิดหวังก็ถาโถมเธอจนล้มอยู่บ่อยครั้ง แต่เธอก็ลุกขึ้นมากัดฟันสู้ได้ตลอดและคว้าแชมป์แรกในรายการ “Yokohama Tire LPGA Classic” ได้สำเร็จ จนเมื่อปี พ.ศ.2560 เธอกลายเป็นนักกอล์ฟหญิงชาวไทยคนแรกที่แรงค์กิ้งพุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งของโลกได้สำเร็จ จากการคว้าแชมป์ติดต่อกันรวมถึงโชฟอร์มเยี่ยมได้หลากหลายรายการ
ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดคือใจของตัวเอง
ทุกสิ่งทุกอย่างกว่าจะสำเร็จได้นั้นสิ่งสำคัญคือ “ความตั้งใจ” ดั่งที่ได้กล่าวในด้านบนถึงชีวิตของโปรเม เพราะระดับโลกที่เธอได้มาช่างดูคู่ควรกับความตั้งใจพยายามของเธอเหลือเกิน แม้เธอจะเคยบาดเจ็บหรือพลาดแชมป์ ก็ไม่ได้ทำให้เธอตัดใจ ซึ่งเป็นคุณสมบัติอีกหนึ่งอย่างที่นักกีฬาที่ดีควรมี และเหมาะกับการที่เยาวชนควรเอาเป็นแบบอย่างเหลือเกิน เพราะหากใจของเรายอมแพ้ไปแล้วล่ะก็ไม่ว่าสิ่งใดก็คงจะไม่สำเร็จเป็นแน่ สุดท้ายนี้ดูแล้วคำว่า “ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร” น่าจะเป็นคำที่บัญญัติถึงตัวโปรเมได้ดีมากที่สุดจริง ๆ