ทีมชาติไทยกับโอกาสได้เข้ารอบฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายอีกครั้ง

ฟุตบอลโลก 2022 ที่การ์ต้า ทีมจากทวีปเอเชียจะได้สิทธิ์นอกเหนือจากเจ้าภาพการ์ต้า  4 ครึ่ง สำหรับรอบคัดเลือกโซนเอเชียจะแบ่งเป็นสามรอบ รอบแรกจะเป็นการคัดเลือกทีมที่มีอันดับฟีฟ่าแรงกิ้ง อันดับ 35 ถึง 46 ของทวีป เพื่อหา 6 ทีมเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบที่ 2 ซึ่งจะเป็นการแข่งขันแบบแบ่งกลุ่ม 8 กลุ่ม กลุ่มละ 5 ทีม เพื่อหา 12 ทีมเข้าไปเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย โดยทีมอันดับ 1 ของรอบสองนี้จะได้เข้าไปเล่นรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายได้แบบอัตโนมัติ เช่นเดียวกับทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีม

สำหรับทีมชาติไทยเราสามารถผ่านเข้ามาเล่นรอบสองได้โดยอัตโนมัติจากอันดับฟีฟ่าแรงกิ้ง โดยทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่ม จี ร่วมกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรต เวียดนาม มาเลเซีย และอินนีเซีย ณ ขณะนี้ เหลือกเกมอีก 3 นัดสุดท้าย  ทีมชาติไทยเรารั้งอันดับ 3 ของกลุ่มมี 8 คะแนน ตามหลังอันดับหนึ่ง เวียดนามที่มี 11 คะแนน และมาเลเซียมี 9 คะแนน โปรแกรมที่เหลือของทีมชาติไทย คือการเปิดบ้าเจอกับ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย รวมทั้งการไปเยือน ยูเออี ซึ่งต้องบอกว่าเรายังมีลุ้นกับการเป็นทั้งแชมป์กลุ่ม หรือรองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุดได้

โอกาสยังเปิดกว้าง ได้เปรียบกับการเล่นในบ้าน 2 เกม

สำหรับโอกาสที่จะได้เข้าไปเล่นในรอบคัดเลือกรอบ 3 ต่อไป ยังคงเปิดกว้างอย่สำหรับทีมชาติไทย ถ้าจะมองถึงอันดับ 1 คงต้องลุ้นให้ทางด้านเวียดนามพลาดท่าแพ้บ้างเกมใดเกมหนึ่ง ส่วนไทยต้องชนะรวดทั้ง 3 เกม ซึ่งถือว่ายากพอสมควรเนื่องจากงานหนักคือแมตซ์ที่ต้องยกพลไปเยือน ยูเออี แต่สำหรับอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีม ยังมีความเป็นไปได้กับการที่เรามีความได้เปรียบจากการได้ลงเล่นในบ้านพบกับ เสือเหลืองมาเลเซีย และ ทีมอิเหนา อินโดนีเซียที่ดูเหมือนทีมชาติไทยเราจะมีความเป็นต่ออยู่พอสมควร ซึ่งหากไทยสามารถเก็บ 6 แต้มกับการเล่นในบ้าน และ ยันเสมอเพื่อ 1 แต้มในเกมเยือน เราจะมี 15 แต้ม ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะได้เป็นทีมอันดับสองที่ดีที่สุด โดยแต่ละเกมจำเป็นต้องทำประตูให้ได้มากที่สุดไว้ก่อนเพื่อตุนไว้ในกรณีที่ต้องตัดสินกันด้วยประตูได้เสีย

แน่นอนว่าการได้เข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบ 12 ทีมสุดท้าย ย่อมถือเป็นการยกระดับทีมชาติไทยเพื่อให้เราได้อยู่ในระดับต้น ๆ ของทวีป แน่นอนว่าการได้ลงเตะกับทีมระดับท็อปของทวีปย่อมทำให้เรามีความคุ้นเคย ได้ฝึกประสบการเมื่อต้องไปเยือนทีมใหญ่ต่อหน้ากองเชียร์เยอะ ๆ อย่างน้อยก็ถือว่าได้ใกล้เคียงกับการได้ไปเล่นฟุตบอลโลกในทุก ๆ ครั้งของการคัดเลือก และที่สำคัญการได้ไปเล่นรอบ 12 ทีมสุดท้ายยังจะได้สิทธิการไปเล่นฟุตบอลเอเชียน คัพ โดยอัตโนมัติอีกด้วย โดยโอกาสทั้งหมดนี้ ก็อยู่ที่การวางแท็คติคของกุนซือ อากิระ นิชิโนะ และฟอร์มการเล่นของนักเตะ รวมทั้งกำลังใจจากแฟนบอลถึงแม้จะติดปัญหาอุปสรรคจากโควิด – 19 อย่างไรก็แล้วแต่มาร่วมกันลุ้นให้ทีมชาติไทยได้ผ่านเข้ารอบไปให้ได้