ลูกหนังขาสั้นรากฐานแห่งอนาคตฟุตบอลไทย

กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยประสบการณ์ ความเข้าใจ การฝึกซ้อม บ่มเพาะเป็นเวลาพอสมควรจึงจะได้นักฟุตบอลมืออาชีพที่เก่งกาจเกิดขึ้นมาได้ จุดเริ่มต้นที่เป็นบ่อเกิดสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดจากทีมฟุตบอลโรงเรียนเสียส่วนใหญ่ หรือที่เราเรียกในกลุ่มของคนที่ชื่นชอบติดตามวงการฟุตบอลว่า “ลูกหนังขาสั้น” ที่เรียกตามกางเกงนักเรียนนั่นเองโดยส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มกันแต่ที่ช่วงอายุ 13-18 ปีเป็นต้นไป โดยปัจจุบันฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งของประเทศไทยเรา และต่างมีนักฟุตบอลระดับเยาวชนกำเนิดเกิดขึ้นมาอยู่มากมาย แต่น้อยคนนักที่จะได้ก้าวไปสู่จุดที่เรียกว่ามืออาชีพ เพราะปัจจัยต่าง ๆ มากมายด้วยสังคมที่มีสิ่งยั่วยุมากมาย สภาพแวดล้อมที่อาจไม่เพรียบพร้อม ทำให้เป็นที่น่าเสียดายอย่างมาก แต่ก็มีจำนวนหนึ่งที่ก้าวไปสู่ระดับมืออาชีพได้เช่นกัน นอกจากความเก่งกาจของตัวนักกีฬาเองยังต้องยกให้กับแต่ละสถาบันที่สามารถปลุกปั้นพวกเขาให้ไปถึงตามที่คาดหวัง

เวทีสร้างเสริมประสบการณ์นักเตะเยาวชน

เมื่อได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่นิยมกีฬาฟุตบอล เวทีการแข่งขันก็ยิ่งมีมากขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งในวงการฟุตบอลระดับเยาวชนก็เช่นกัน โดยมีเวทีหลักเป็นฟุตบอลกรมพลศึกษาทั้งถ้วย ก, ข, ค ที่มีการจัดการแข่งขันต่อเนื่องมายาวนานหลายสิบปี, มีการแบ่งรุ่นออกมาเพื่อความเท่าเทียมและมีมาตรฐานการตัดสินในแบบเดียวกับนักฟุตบอลระดับอาชีพ นอกจากนั้นยังมีรายการแข่งขันอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิเช่น ฟุตบอล 7 คน แชมป์กีฬา 7 สี, ฟุตบอลถ้วยเยาวชนกองทัพบก, ฟุตบอลโค้กคัพ ทั้งหมดทั้งมวลนั้นล้วนแต่เป็นเวทีสร้างกระดูกและประสบการณ์ให้กับนักฟุตบอลเด็กทั้งสิ้น

เราจะเห็นได้ว่าโรงเรียนที่มีความพร้อมและส่งเสริมนักฟุตบอล ส่วนใหญ่จะมีชื่อเสียงในด้านที่สามารถทำให้พวกเขาก้าวไปสู่การนักเตะมืออาชีพที่ได้เล่นให้กับสโมสรชั้นนำของประเทศไทย เห็นได้ชัดอย่างกรณีของ “ธีรธร บุญมาทัน” แบ๊คซ้ายอันดับหนึ่งของทีมชาติไทย ที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับทีมโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ทีมชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ที่อดีตเจ้าตัวเคยลงเล่นให้กับโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี โรงเรียนชั้นนำในกีฬาฟุตบอลของประเทศไทยที่มีความเข้มข้นที่จะบ่มเพาะนักกีฬาฟุตบอลออกมาอยู่ตลอด เห็นได้จากการที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี จะมีแชมป์ติดไม้ติดมืออยู่เป็นประจำในทุก ๆ รุ่นที่ลงทำการแข่งขัน แต่ก็ยังมีอีกหลายโรงเรียนสร้างนักเตะชื่อดังออกมาได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าผลดีนั้นจะตกอยู่กับใครไม่ใช่ที่ไหน แต่เป็นทีมชาติไทยที่รักยิ่งของเราที่จะมีนักเตะคุณภาพผลัดเปลี่ยนมาเป็นกำลังได้ เพื่อทดแทนรุ่นพี่ที่โรยราลงไปตามกาลเวลา

ครอบครัวอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ

วัยเรียนบุคคลที่ตัวเยาวชนจะได้รับการผลักดัน นอกจากทางโรงเรียนกับเหล่าอาจารย์ผู้ฝึกสอนแล้ว ครอบครัวของตัวนักเตะก็เช่นกัน หากได้รับการซัพพอร์ตที่ดี เข้าใจในสิ่งที่ตัวเยาวชนรัก ทุกอย่างจะสามารถประสานเป็นหนึ่งเดียวจนได้นักฟุตบอลมืออาชีพดี ๆ คนหนึ่ง ที่มีคุณภาพทั้งด้านการเป็นนักกีฬาและการเป็นบุคคลที่มีคุณภาพสู่สังคมต่อชาตินั่นเอง